Home บทความทั้งหมด Website 10 ข้อที่ทุกคนต้องรู้เกี่ยวกับลิขสิทธิ์รูปภาพในเว็บไซต์

10 ข้อที่ทุกคนต้องรู้เกี่ยวกับลิขสิทธิ์รูปภาพในเว็บไซต์

Mr.Pagapong Neungmanow

ลิขสิทธิ์รูปคือเรื่องสำคัญ และการเอารูปมาใช้ในเว็บไซต์น่ากลัวกว่าที่ทุกคนคิดกันไว้เยอะ เมื่อก่อนเราทำงานส่งครู แค่ Copy รูปจากกูเกิ้ล แล้วเขียนในรายงานว่า “ขอบคุณรูปภาพจาก Google” ก็เสร็จแล้ว แต่ในการทำงานจริง ๆ อาจทำให้เราเสียเงินหลายแสนได้เลยครับ


ข้อที่ 1 “ลิขสิทธิ์” คืออะไร

ความคุ้มครองทางกฏหมายที่คุ้มครองผู้สร้างเนื้อหา (รูป, เพลง, วีดิโอ, งานเขียน etc.) จากการถูกผู้อื่นนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต


ข้อที่ 2 ลิขสิทธิ์จะได้มาตอนไหน

ตั้งแต่วินาทีที่เนื้อหาถูกสร้างขึ้นมาก็ได้รับการคุ้มครองด้านลิขสิทธิ์แล้ว โดยไม่ต้องไปจดทะเบียนตามกฏหมายก็ได้


ข้อที่ 3 มีกฏหมายการคุ้มครองลิขสิทธิ์ที่ใช้ได้ทั่วโลกมั้ย

ไม่มี แต่ละประเทศมีกฏหมายคุ้มครองลิขสิทธิ์ที่แตกต่างกัน กฏหมายบางประเทศอาจจะสนับสนุนกับกฏหมายอีกประเทศได้ แต่สิ่งที่เหมือนกันทุกประเทศมีอยู่อย่างหนึ่งคือ : ถ้าคุณไม่ใช่เจ้าของลิขสิทธิ์ คุณเอาเนื้อหานั้นไปใช้ไม่ได้


ข้อที่ 4 ถ้าเราไม่รู้เรื่องกฏหมายลิขสิทธิ์เลย แล้วโดนฟ้อง ถือว่าผิดมั้ย

อันนี้ไม่ใช่ข้ออ้างครับ ถึงแม้เราจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็มีความผิดทางกฏหมายอยู่ดี


ข้อที่ 5 ใครจะเป็นคนรับผิดชอบเมื่อมีการละเมิดลิขสิทธิ์ในเว็บไซต์

เจ้าของเว็บไซต์เป็นผู้รับผิดชอบ ถึงแม้ว่าเขาจะจ้างคนอื่นมาทำเว็บไซต์ให้ เจ้าของเว็บไซต์ก็จะเป็นคนแรกที่ต้องรับผิดชอบเมื่อมีการละเมิดลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม ถ้าการละเมิดลิขสิทธิ์เกิดจากตัวคนทำเว็บไซต์ เจ้าของเว็บไซต์ก็โยนความผิดไปที่คนทำเว็บไซต์ได้
ประเภทเนื้อหาที่กฏหมายไทยครอบคลุม มีดังนี้ (เรียบเรียงมาจากเว็บไซต์ Thailawonline)
- งานเขียน (หนังสือ, สิ่งพิมพ์, คำบรรยาย, โปรแกรมคอมพิวเตอร์? ฯลฯ)
- งานศิลปะ (ภาพวาด, รูปถ่าย, กราฟฟิก ฯลฯ)
- งานเสียง งานภาพยนต์ (รวมถึง การถ่ายทอดต่าง ๆ)
- งานแสดง


ข้อที่ 6 ในการทำเว็บไซต์ สิ่งที่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์คืออะไรบ้าง

- นำเนื้อหาจากเว็บไซต์ผู้อื่นมาลงในเว็บไซต์ตัวเอง โดยคุณสามารถอ้างอิงเป็นย่อหน้า / ประโยคได้ ถ้าคุณให้เครดิตคนเขียนต้นฉบับ และมีลิงค์ไปยังบทความต้นฉบับ
- นำเนื้อหาในสิ่งพิมพ์ออนไลน์ของผู้อื่น เช่น อีเมล มาลงในเว็บไซต์โดยไม่ได้รับอนุญาต
- Forward อีเมลของคนอื่นให้อีกคน โดยไม่ได้รับอนุญาต
- แก้ไขเนื้อหาของผู้อื่น ซึ่งเปลี่ยนความหมายไปจากเดิม
- ข้อนี้สำคัญที่สุดครับ การนำโลโก้, ไอคอน, รูป, วีดิโอ, เสียง จากเว็บไซต์อื่นมาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต


ข้อที่ 7 ประเภทลิขสิทธิ์ที่เจอบ่อย ๆ มีอะไรบ้าง

ทั้งหมดนี้เป็นรายละเอียดชื่อลิขสิทธิ์รูปภาพที่เราเจอบ่อย ๆ อ่านให้ละเอียดนะครับ! บางครั้งเราซื้อภาพถ่ายมาแล้วทำไมยังโดนฟ้องอีก คำตอบคือต้องดูรายละเอียดให้ชัดเจนว่าเขาเขียนอะไรเพิ่มเติมเป็นข้อยกเว้นหรือไม่
Freeware – นำไปใช้ได้ฟรี และนำไปแชร์ต่อได้ แต่ไม่สามารถแก้ไขหรือเอาไปขายต่อได้โดยไม่ได้รับอนุญาต

Shareware – นำไปใช้ได้ฟรี แต่ถ้าจะใช้ในระยะยาวต้องบริจาคเงิน สามารถนำไปแชร์ได้แต่ต้องให้เครดิตทุกครั้งโดยไม่ต้องขออนุญาต

Fair Use – สามารถนำไปใช้ได้เพื่อการศึกษาและเขียนวิจารณ์ โดยไม่ต้องขออนุญาต

Creative Commons – นำไปใช้ได้ฟรี แต่ต้องอยู่ในกฏที่ลิขสิทธิ์กำหนดไว้ คุณต้องให้เครดิตเจ้าของเนื้อหาทุกครั้ง โดยเจ้าของเนื้อหาเป็นผู้กำหนดว่า อนุญาตให้แก้ไขมั้ย, บังคับให้คุณเอางานไปแก้แล้วต้องเป็นลิขสิทธิ์ Creative Commons เหมือนกันมั้ย, อนุญาตให้ใช้ในงานค้าขายมั้ย

Editorial use : อนุญาตให้ใช้งานในบทความ, หนังสือพิมพ์, แม็กกาซีน, นิตยสารและสื่อสิ่งพิมพ์

Commercial use : อนุญาตให้ใช้ในงานเชิงพาณิชย์ ในสื่อโฆษณา เพื่อโปรโมตสินค้าและบริการของธุรกิจ เช่นนำไปใช้ทำโฆษณาบนโปสเตอร์

Public Domain เป็นลิขสิทธิ์ที่เราสามารถนำไปใช้ได้ฟรี โดยไม่ต้องขออนุญาต ครอบคลุมเนื้อหาพวกเรื่องที่เป็นความจริง (เช่น โลกเป็นทรงกลม / ทะเลสีฟ้า) , ไอเดีย, ขั้นตอนการทำงาน และยังครอบคลุมงานที่ลิขสิทธิ์หมดอายุไปแล้วด้วย (เช่น นิยายที่เก่ามาก ๆ ) หรืออย่างล่าสุดที่ฮิตกันคือโลโก้ของ NASA ที่คนเอาไปพิมพ์ขายบนเสื้อครับ

Royalty-free หมายถึง ผู้ซื้อสามารถซื้อ License แบบ royalty-free จากเรา และสามารถใช้รูปของเราได้แบบไม่จำกัดเวลา ไม่จำกัดครั้งในการใช้งาน ใช้ได้เรื่อย ๆ เลยครับ
ใน Shutterstock ได้บอกว่าหมายถึงวิธีการอนุญาตให้ใช้ภาพแบบได้ลิขสิทธิ์ในราคาเหมาจ่าย

Rights-managed (Pay per use) หมายถึง เป็นลิขสิทธิ์ที่ไม่ใช่การซื้อขาดแบบ Royalty-free แต่มีข้อสัญญาที่แนบตามมาด้วย เช่น จะต้องจ่ายค่าบริการเป็นรายเดือน, จ่ายเงินทุกครั้งที่ใช้รูปภาพนี้


ข้อที่ 8 ถ้ากฏหมายมันยุ่งยากขนาดนี้ แล้วเราจะทำเว็บไซต์ที่มีรูปสวย ๆ ในเว็บไซต์ได้ยังไง


A) สร้างมันขึ้นมาเองเลย
เราทำกราฟฟิกเอง ถ่ายรูปเอง เขียนบทความเอง มันก็เป็นของเรา 100% ตามกฏหมายครับ นอกจากนั้นเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีก็ช่วยให้เราทำเนื้อหาคุณภาพดีได้ง่ายขึ้น มีโปรแกรมทำกราฟฟิก โปรแกรมตกแต่งภาพที่สะดวกขึ้น ทำให้การทำเนื้อหาขึ้นมาเองไม่ยากจนเกินไป

B) ถ้าคุณเป็นฟรีแลนซ์ ลองให้เวลาตัวเองเดือนละ 1 วันมาถ่ายรูป
หาวันว่าง ๆ สักวันมาถ่ายรูปที่ต้องใช้บ่อย ๆ เช่น เครื่องคิดเลข, โทรศัพท์, มือถือ, ลำโพง, คนจับมือ, เงิน ฯลฯ รับรองว่าจะช่วยเบาเงิน และเบาแรงคุณในอนาคตได้อีกเยอะ

C) ติดต่อช่างถ่ายรูปโดยตรง
คุณสามารถติดต่อกับช่างถ่ายภาพเพื่อขอรูปเค้ามาใช้ในเว็บไซต์ได้ครับ โดยแลกเปลี่ยนกับการให้เครดิตรูปเพื่อช่วยเผยแพร่เจ้าของผลงาน ซึ่งมีคนถ่ายรูปสวย ๆ ทั้งบน Instagram และเว็บไซต์ DeviantArt ที่จะอยากนำผลงานมาลงในเว็บไซต์ของคุณแลกกับเครดิต

D) ซื้อจากเว็บไซต์ขายรูป (Stock Photo)
อันนี้เป็นทางออกที่หลาย ๆ บริษัทเลือกใช้กันครับ เป็นการซื้อรูปมาจากเว็บไซต์ขายรูป ซึ่งจะทำให้เราสามารถเอารูปเหล่านั้นไปใช้บนเว็บไซต์ได้อย่างถูกกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เราก็ยังมีโอกาสโดนฟ้องได้ ถ้าเว็บไซต์ที่เราซื้อรูปมาไม่ได้เอารูปนั้นมาขายอย่างถูกกฏหมาย


ข้อที่ 9 ขนาดเว็บขายรูปยังมีปัญหาขนาดนี้ แล้วเราจะเชื่อใครดี ?

จริง ๆ ถ้าจะบอกว่าอย่าเชื่อใครเลยก็ไม่ผิด แต่เราอาจมีโอกาสรอดมากขึ้นโดยทำสิ่งเหล่านี้ทุกครั้งที่มีการซื้อขายรูป:
- เก็บใบเสร็จ และใบเสนอราคาไว้ให้ดี
- ถ่ายภาพหน้าจอของ Terms of use, ข้อมูลลิขสิทธิ์, และเนื้อหาต่าง ๆ ที่บอกว่ารูปนี้มีลิขสิทธิ์แบบ “Royalty Free (ในไปใช้ทางการค้าได้)”
อย่าลืมว่าแม้แต่เว็บแจกรูปฟรี ที่บอกว่ารูปพวกนี้เป็น Public Domain เอาไปใช้ยังไงก็ได้ ก็ยังมีโอกาสที่เค้าจะไปเอารูปจากเว็บขายรูปมาลง ซึ่งทำให้เราโดนฟ้องได้ เพราะฉะนั้นเวลาเจอรูปสวย ๆ ที่ฟรี หรือราคาถูกมาก ๆ ให้ระวังตัวกันไว้ให้ดีครับ


ข้อที่ 10 เรื่องสุดท้ายที่เราควรคำนึงถึงตอนทำเว็บไซต์

ระวังการใช้รูปถ่ายที่แถมมากับ Template เว็บไซต์ไว้ให้ดีครับ เพราะถึงคุณจะจ่ายเงินซื้อ Template มาใช้ สิ่งที่คุณซื้อคือ Code กับ Layout ของเว็บไซต์ ไม่ได้ซื้อรูป ลิขสิทธิ์ของรูปพวกนี้จะไม่ได้ให้กับคุณ หรือเว็บไซต์ใหม่ที่คุณจะสร้าง โดยส่วนใหญ่ลิขสิทธิ์รูปจะให้กับ “คนที่สร้าง Template” คนเดียวเท่านั้น และถูกใช้เพื่อสาธิตการวางเนื้อหาลงใน Template เท่านั้น


Ref : https://www.designil.com/image-photo-license-101.html
Ref : https://www.sitepoint.com/copyright-10-thing-to-know-about-using-imagery/

2020 © blog.ziidev.com